บริการออกแบบ และผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด เรียบหรู ดูดี มีสไตล์ ไม่เหมือนใคร
ทั้งงานปริมาณน้อย (Print On Demand) และปริมาณมาก รวมไปถึงเทคนิคการพิมพ์ต่างๆ เช่น ปั้มนูน เคลือบด้าน สปอตยุวี
นามบัตรถือเป็นสิ่งสำคัญของธุรกิจในระดับมืออาชีพที่เหล่าบรรดาผู้ประกอบการ
นักบริหาร
หรือแม้แต่กระทั่งพนักงานทุกคนที่ถือเป็นหน่วยปฏิบัติที่เล็กที่สุดของ
บริษัทจำเป็นต้องมีพกติดตัวเอาไว้
เนื่องจากในความเป็นจริงนามบัตรธุรกิจเป็นอะไรที่มีคุณค่ามากกว่าแค่กระดาษ
แผ่นเล็กๆแผ่นหนึ่ง
เพราะนามบัตรธุรกิจเป็นการแสดงและแนะนำตัวตนของผู้ประกอบการ บริษัท
หรือพนักงานผู้ถือบัตรให้บุคคลอื่นได้รู้จักเปรียบเสมือนเป็นบัตรประชาชนทาง
ธุรกิจเลยก็เทียบได้
ซึ่งหลายวัฒนธรรมของการทำธุรกิจในการพบปะพูดคุยกันครั้งแรกๆของบริษัทผู้ค้า
มักจะมีการแลกเปลี่ยนนามบัตรกันก่อนที่จะเริ่มลงมือพูดคุยเจรจาธุรกิจด้วย
ซ้ำไป นามบัตรจึงเป็นสิ่งสำคัญและกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกๆธุรกิจจะต้องมี
ซึ่งโดยปกติแล้วนามบัตรไม่ได้มีรูปแบบตายตัวเหมือนสูตรทางคณิตศาสตร์แต่มัน
ก็มีหลักการสากลที่ผู้ประกอบการควรจะต้องยึดเอาไว้เป็นหลักในการพิจารณา
ออกแบบอยู่บ้างพอสมควรเพื่อความเป็นมืออาชีพและได้รับการยอมรับจากภายนอก
โดยองค์ประกอบหลักๆที่ควรพิจารณามีดังต่อไปนี้
ชื่อ สกุล ต้องชัดเจน
ชื่อและนามสกุลถือเป็นส่วนสำคัญอันดับแรกสุดเลยของนามบัตร
เพราะวัตถุประสงค์หลักของนามบัตรคือมันถูกผลิตขึ้นมาเพื่อแนะนำชื่อเสียง
เรียงนามของผู้ถือเป็นสำคัญ
ดังนั้นผู้ประกอบการห้ามสะกดตัวอักษรผิดเป็นอันขาดซึ่งเรื่องนี้อันตรายมาก
เพราะการสะกดผิดแม้แต่ตัวเดียวก็ทำให้ความหมายของชื่อและการอ่านออกเสียง
เปลี่ยนไปได้
นอกจากนี้ยังอาจเกิดความผิดพลาดในด้านอื่นๆอีกหากคู่ค้าทางธุรกิจของท่านนำ
ชื่อที่ได้จากนามบัตรที่สะกดผิดไปเขียนอ้างอิงลงในสัญญาที่มีผลทางกฎหมาย
หรือเช็คธนาคารซึ่งมันจะกลายเป็นโมฆะทันทีและต้องเสียเวลามาร่างเอกสารใหม่
ทั้งหมดซึ่งมันไม่คุ้มค่าและยังหน้าอับอายมากอีกด้วย
นอกจากนี้แล้วชื่อของผู้เป็นเจ้าของนามบัตรต้องมีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
วางอยู่อย่างโดดเด่นและสามารถสังเกตได้ง่าย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดตัวอักษร รูปแบบฟอนต์ ตำแหน่งที่วาง เป็นต้น
ตำแหน่งหน้าที่
ตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าของบัตรคือองค์ประกอบในส่วนที่ 2
ที่ผู้ประกอบการจะต้องให้ความสนใจ
เพราะมันจะบ่งบอกถึงตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบของเจ้าของนามบัตรใบนั้น
โดยตรงเพื่อเป็นการสะดวกในการขอติดต่อ
ซึ่งสำหรับบริษัทที่มีลักษณะองค์กรขนาดใหญ่มักไม่ค่อยมีปัญหาเพราะพนักงาน
แต่ละคนมีตำแหน่งที่ตายตัวอยู่แล้ว
แต่ปัญหามักจะเกิดขึ้นกับบริษัทที่มีขนาดเล็กที่บางคนยังไม่รู้ว่าตนเอง
ทำงานในตำแหน่งอะไรเลยด้วยซ้ำเพราะทำแทบจะทุกอย่างเลย
ดังนั้นก่อนที่จะทำนามบัตรต้องกำหนดให้ได้เสียก่อนว่าเจ้าของนามบัตรทำงานใน
ตำแหน่งอะไรจึงจะสามารถดำเนินการในทำนามบัตรได้
ต้องพิมพ์ให้เห็นเด่นชัด นอกจากนี้หากในอนาคตมีพนักงานคนใดมีตำแหน่งเปลี่ยนแปลง
ต้องรีบทำการเปลี่ยนนามบัตรให้พนักงานคนคนั้นโดยทันทีด้วย
ที่อยู่ของการติดต่อ
พงศ์พัฒน์ การพิมพ์ของเราให้ความสำคัญในสิ่งพิมพ์สิ่งนี้เป็นอย่างยิ่ง ส่วนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างสูง
โดยผู้ประกอบการต้องระบุชื่อที่อยู่ของบริษัทลงไปอย่างชัดเจนว่าบริษัทชื่อ
อะไรตั้งอยู่เลขที่เท่าไหร่ แขวง/เขตไหน จังหวัดอะไร
รหัสไปรษณีย์รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ติดต่อของทางบริษัท
ซึ่งนอกจากนี้ในปัจจุบันยังควรต้องใส่เบอร์โทรศัพท์มือถือ อีเมลล์
รวมถึงทวิตเตอร์และช่องทางการสื่อสารอื่นๆที่เจ้าของบัตรมีเพื่อความสะดวก
มากขึ้นในการติดต่อสื่อสารและเป็นการตามเทรนด์ของสังคมที่พัฒนามากขึ้นใน
แต่ละวัน
โลโก้บริษัท
ตามหลักที่ถูกต้องแล้วโลโก้บริษัทต้องมีขนาดที่ใหญ่โตและโดดเด่นมากที่สุดใน
นามบัตร
โดยมีสีสันตามโลโก้จริงทั้งหมดและต้องตั้งอยู่ในที่ที่โดดเด่นแยกออกมา
เป็นการเฉพาะในมุมใดมุมหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นซ้ายหรือขวา
และต้องไม่มีรายละเอียดในส่วนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องหรือจัดอยู่ในส่วน
เดียวกัน
ขนาดของนามบัตร บนกระดาษต่างๆ
โดยปกติขนาดของนามบัตรค่อนข้างจะเป็นมาตรฐานสากลอยู่แล้วคือ มีความกว้าง 90
มิลลิเมตรและยาว 54 มิลลิเมตร ตามรูปแบบสากล
ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบกอบการสามารถแก้ไขขนาดได้นิดหน่อยทั้งความกว้างและ
ความยาวโดยบวกลบได้ไม่เกิน 5 มิลลิเมตร
และสามารถเหลามุมของนามบัตรให้มีลักษณะที่โค้งมนได้
แต่ไม่ควรออกแบบรูปทรงให้มีลักษณะที่แปลกประหลาดมากไป
เพราะเก็บใส่กระเป๋าได้ค่อนข้างลำบาก
สีพื้นหลัง 4 สี 2 สี และ 1 สี หรือสีเดียว
สามารถเลือกได้ตามใจชอบแต่อยากจะขอแนะนำให้ใช้สีที่เป็นพื้นๆและอ่อนแทน เพราะสามารถอ่านตัวหนังสือได้สะดวกกว่าพวกที่มีสีเข้มๆมาก
จัดทุกองค์ประกอบอย่างสมดุลและลงตัว
ส่วนสุดท้ายที่ต้องทำก็คือผู้ประกอบการต้องมาจัดองค์ประกอบก่อนหน้านี้ให้
ทุกส่วนสามารถเข้ากันได้อย่างลงตัวมากที่สุดไม่น้อยหรือมากเกินไป
โดยลักษณะที่ขอแนะนำคือให้เลือกเขียนสิ่งต่างๆลงในนามบัตรอย่างตรงตัวกระชับ
และต้องไม่ยาวจนเกินไปแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องครอบคลุมจนทำให้รู้ว่าเจ้าของ
นามบัตรเป็นใครมีหน้าที่ตำแหน่งการงานอยู่ที่บริษัทอะไร
สาเหตุก็เพราะหากเขียนอธิบายมากจนเกินไปนามบัตรธุรกิจก็จะทำให้จับใจความไม่
ได้ แต่หากท่านเขียนน้อยเกินไปก็จะดูไม่น่าเชื่อถืออีกเช่นกัน
ดังนั้นผู้ประกอบการต้องพยายามจัดสรรเนื้อที่ในนามบัตรอย่างลงตัวให้มาก
ที่สุด
อย่าลืมว่านามบัตรธุรกิจที่ดีสามารถสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจมานับไม่
ถ้วนแล้ว
Source: http://incquity.com/articles/office-operation/business-namecard